“เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป” ย้ำวิสัยทัศน์เครือโรงแรมระดับโลก ชูหลัก “Hotel Sustainability Basics” ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อโลกที่ดีกว่า
ด้วยความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ระดับโลกในปัจจุบันที่มุ่งสู่ “ความยั่งยืน” ส่งผลให้ธุรกิจภาคบริการต้องปรับแนวทางการดำเนินงานสู่การขับเคลื่อนธุรกิจที่มีความใส่ใจสังคมมากขึ้น “เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป” เครือโรงแรมระดับโลก ถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่มีความกระตือรือร้นและมุ่งมั่นสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในทิศทางยั่งยืนอย่างจริงจังมาโดยตลอด
เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป (Radisson Hotel Group : RHG) มีโรงแรมในเครือกว่า 1,700 แห่ง ใน 120 ประเทศทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ที่โดดเด่นถึง 9 แบรนด์ สิ่งที่เครือโรงแรมระดับโลกที่มีอายุกว่า 75 ปี แห่งนี้ดำเนินการ ไม่เพียงแค่ประกาศนโยบายสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ขององค์กรเท่านั้น หากยังลุกขึ้นมาผลักดันการบริหารจัดการธุรกิจ และนำเรื่องของความยั่งยืนมา “ปฏิบัติจริง” เพื่อเตรียมรองรับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาค “ธุรกิจการท่องเที่ยว” ที่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะประเทศไทยที่ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่ง เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เล็งเห็นโอกาสในการขยายตัวทางธุรกิจและศักยภาพการเติบโตของธุรกิจของประเทศไทย จึงตั้งเป้าหมายเปิดโรงแรมและรีสอร์ทให้ได้ 100 แห่งในไทย ภายในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 โรงแรม ในกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต แต่เนื่องจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป โดยหันมาใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น ภาคธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้ทัน
มาตรฐานบริการใหม่ “เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป” บนเส้นทางยั่งยืน
Ramzy Fenianos ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนา ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางเรื่องความยั่งยืนว่า เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นนโยบายวันนี้ หากแต่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งจากการเดินทางและการท่องเที่ยวที่กำลังมุ่งเป้าจะเดินหน้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือศูนย์อย่างมีนัยสำคัญ โดย เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 และกำหนดเป้าการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ อิงจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ยังได้จับมือกับสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council : WTTC) ในการจัดทำตัวชี้วัดความยั่งยืนชุดใหม่ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ที่เรียกว่า “พื้นฐานด้านความยั่งยืนของโรงแรม” (Hotel Sustainability Basics) โดยเป้าหมายระยะสั้นอันหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายระยะกลางและระยะยาวต่อไปคือ นำพื้นฐานด้านความยั่งยืนมาใช้กับทุกโรงแรมของ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2566
Hotel Sustainability Basics หรือพื้นฐานด้านความยั่งยืนของโรงแรม เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เป็นสิ่งที่ยิ่งตอกย้ำวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กรได้อย่างชัดเจน Fenianos อธิบายถึง Hotel Sustainability Basics ที่ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ดำเนินการ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ด้านสำคัญ ดังนี้
ด้านประสิทธิภาพ (Efficiency) เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบพลังงานและควบคุมการใช้น้ำในอาคาร ที่ไม่เพียงลดการใช้ทรัพยากร แต่ยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย และนำเงินส่วนนี้ไปบริจาคองค์กรการกุศลช่วยเหลือผู้คนกว่า 28,500 คน ให้มีน้ำสะอาดบริโภค นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายว่า จะลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้ถึง 30% หรือ 39,000 ตัน ภายในปี 2024 รวมถึงตั้งเป้าด้านการจัดการขยะให้ดีขึ้นผ่านวิธีแยกขยะ ปฏิเสธพลาสติกที่ใช้ได้ครั้งเดียว (Say No) ลดการทิ้งขยะอาหาร โดยร่วมมือกับ Too Good To Go จนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดการทิ้งขยะอาหารได้ถึง 19,000 มื้อ
ด้านรักษ์โลก (Planet) โรงแรมยังมุ่งเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์สีเขียวในโรงแรมเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นอันตรายต่อผืนดินและพนักงาน มีการเพิ่มตัวเลือกเมนูอาหารมังสวิรัติซึ่งช่วยลดคาร์บอนฟุตปรินต์ได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของมื้อปกติ รวมถึงงดการใช้หลอดและช้อนคนกาแฟแบบพลาสติก ซึ่งช่วยลดจำนวนการเดินทางของการทิ้งขยะพลาสติกได้มากถึง 32 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังหันมาใช้เครื่องจ่ายสบู่เหลวและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในทุกโรงแรมภายในปี 2024 ซึ่งจะช่วยลดพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งได้ถึง 500 ตันต่อปี เท่ากับน้ำหนักของช้างอินเดีย 125 ตัว
ด้านบุคคลากร (People) มีการสร้างความแตกต่างให้กับพื้นที่ชุมชน บริเวณรอบๆ ที่ตั้งของโรงแรม อาทิ ส่งเสริมให้พนักงานเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาในชุมชน การสนับสนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ 65% จากคู่ค้าที่เป็นคนในชุมชน และร่วมบริจาคเงิน 510,000 ปอนด์ให้กับองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร และยังส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในองค์กรอีกด้วย
“Hotel Sustainability Basics เปรียบเสมือนกับการทำ KPI ด้านความยั่งยืน ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ครบถ้วน และองค์กรจะสามารถเดินตามเป้าหมายความยั่งยืนในการมีส่วนร่วมในการช่วยโลกและสังคม ไม่ว่าจะเป็น การลดการใช้น้ำที่ทำได้ง่ายด้วยการใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ผลิตในชุมชน ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้จะตกอยู่กับคนในชุมชน”
ข่าวแนะนำ : ทำความรู้จัก “Hive” โซเชียลมีเดียทางเลือกสำหรับคนหนีจาก Twitter มียอดผู้ใช้แตะ 1 ล้านบัญชีแล้ว